wat_bodhi_dhamm
bodhidhamm
bodi_dhammnavi bodi_dhammnavi bodi_dhammnavi bodi_dhammnavi bodi_dhammnavi bodi_dhammnavi bodi_dhammnavi bodi_dhammnavi


วิชา “ความสุข”
คนเราทุกคนตั้งแต่เกิดจนตาย ต้องการมีความสุขทั้งนั้น เจ้าวิชาความสุขนี้ เราจะไปเรียนรู้ได้จากที่ไหนกันน๊า...
เราเกิดมา ตอนเป็นเด็ก เราก็ไปโรงเรียนเรามีความรู้เรื่องโมเลกุลของน้ำซึ่งเล็กจนมองไม่เห็นเราไม่เคยเรียนรู้เรื่อง
การมีความสุขเลย เราขอบเรียนรู้เรื่องเชื้อโรคได้หลายพันชนิดแต่ไม่เคยคิดจะเรียนรู้เรื่องวิธีการมีชีวิตแสนสุขเลย พวกเราส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องความทุกข์ยากแต่กลับไร้เดียงสากับเรื่องแสนสุข เป็นเพราะอะไร
ก็ ศาสนานั้นงั้ย คือวิชาแห่งความสุขเป็นเรื่องของจิตวิญญาณปฏิบัติตามข้อบัญญัติแล้วจะได้บุญกุศลและได้ขึ้นสวรรค์ในภายภาคหน้า
ปฏิบัติตามเงื่อนไขนั่นสิ...แล้วจะมีความสุข
ศาสนาทุกศาสนามีแนวโน้มที่จะไปในช่วงปรับตัว เพราะการถ่ายทอด สืบต่ออย่างไม่เข้าใจ ขัดแย้งกับธรรมมะสูงสุดในระดับ “ไม่รู้สึกตัว” อาทิเช่น ธรรมมะเป็นเรื่องไร้กาลเวลา แต่กลับรักษารูปแบบเปลือกนอกแบบไม่ยอมเปลี่ยนแปลงแทนที่จะให้ความสำคัญกับเนื้อแท้ธรรมมะ ทำให้ศาสนาเป็นเรื่อง “โบราณ” ทั้งที่ธรรมมะเป็นเรื่อง “ล้ำสมัย” อยู่ตลอดเวลา จิตใจที่คับแคบและปิดกั้นแนวคิดได้รับการปกป้องรักษาอย่างดีเพราะกลัวสูญเสียความเป็นตัวตน แต่กลับถูกทำลายด้วยกฎของธรรมมะเอง (ในระดับความคิดมนุษย์ตัวตนไม่มีอยู่จริง-ความแน่นอนและความไม่นอนเป็นสิ่งเดียวกัน) ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว “ความจริงแท้สูงสุดไม่สามารถทำลายได้”
และหลายครั้ง เรามีความเชี่ยวชาญที่จะทำเรื่องเรียบง่ายให้เป็นเรื่องสับสนน่าปวดหัว สร้างเงื่อนไขการมีความสุขมากมาย ยกศาสนาวางไว้บนหิ้งจนไม่สามารถแตะต้องได้ รอให้ทุกอย่างดีขึ้นในภายภาคหน้าแล้วจึงจะมีความสุข การจะเป็นผู้มีบุญจะต้องผ่านรูปแบบตายตัว ทั้ง ๆ ที่ธรรมมะเป็นเรื่องของปัจจุบันที่สามารถเข้าถึงได้ทันทีเดี๋ยวนี้ ผู้สืบทอดศาสนากลับเป็นผู้สร้างกำแพงกีดกันขึ้นมาเสียเอง
ตัวอย่างสั้น ๆ เหล่านี้ ทำให้ศาสนา วิธีการแห่งความสุข เป็นเรื่องไม่สมจริงในทางปฏิบัติ เพราะรู้สึกว่ามันห่างไกลเหลือเกิน และเป็นที่มาของการขาดศรัทธา(การรู้สึกมีอยู่จริงของธรรมมะ-ซึ่งเป็นหัวใจหลัก)“นี่เป็นเพียงความห็นในมุมมองอีกมุมมองหนึ่ง” และอยากจะบอกว่า “ทำชีวิตให้มันง่ายกว่านี้ได้มั้ย” ถ้าต้องการมีความสุข “ก็มีความสุขตอนนี้เลยได้มั้ย” และที่สำคัญแต่ละศาสนา ลดการแข่งขันและกล่าวหากันได้มั้ย เพราะธรรมมะมันเลยคำว่า “ศาสนาของฉัน”ไปแล้ว ความรู้สึกมันบอกอย่างนั้นครับ 

--
เขียนโดย tirapanyo ถึง ถิรปัญโญ เวลา 3/25/2010 09:52:00









Tel. (069) 300 66768-9    Fax (069) 300 66970    Email. info@bodhi-dhamm.de 
wat_pah_kammatarnlaungta_mahabuapalanjit84000

 Impressum